top of page
oppame ศัลยกรรมเกาหลี (1) (1).png
Search
Writer's pictureOppa Me Academy

แอพที่จำเป็นต้องโหลดก่อนไปเกาหลี

แอพที่จำเป็นต้องโหลดก่อนไปเกาหลี

Apps ที่ต้องโหลดก่อนไปเกาหลี
1. Visit Korea
แอพพลิเคเดินทางชั้นนำช่วยให้ผู้เดินทางสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยเนื้อหาและอินเทอร์เฟซที่ ปรับปรุงใหม่จะทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวในสมาร์ทโฟนระหว่างการเดินทาง ที่สามารถแนะนำสถานที่เที่ยวทั้งหมดใน เกาหลี  นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น “Travel Planner” ซึ่งเพิ่งเปิดตัวด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่ายซึ่งช่วยให้สามารถวาง แผนการท่องเที่ยวได้ เส้นทางที่แนะนำและเส้นทางที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

2. Kakao Talk แอพที่จำเป็นอีกหนึ่งแอพเมื่อเราต้องใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลี แอปพลิเคชั่น messenger คาคาโอะ ช่วยให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนได้ทุกที่ตราบเท่าที่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตKakaoTalk ยังได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการโทรและการโทรแบบวิดีโอคอล กับเพื่อนและครอบครัวของคุณจากที่บ้าน สามารถดาวน์โหลดเพื่อให้คุณสามารถใช้งานง่ายคล้ายกับ Skype

3. Kakao Map KakaoMap ก็คือแอพ Google Map ดีๆ นั่นเองค่ะ แล้ว KakaoMap ดีกว่ายังไง? แอพนี้จะมีข้อมูลที่อัพเดทกว่า ถูกต้องกว่า และละเอียดกว่า ร้านไหนปิดทำการไปแล้ว หรือประตูทางออกรถไฟอยู่ตรงไหน แม้แต่เส้นทางเดินเล็กๆ ในตรอกซอกซอย เจ้าแอพนี้ก็จะบอกหมดเลย (กระซิบเบาๆ ว่าร้านรวงเด็ดๆ ในโซลก็ชอบไปอยู่ตามตรอกซอกซอยนี่แหล่ะค่ะ) ซึ่งแอพนี้ค่อนข้างแม่นยำกว่า Google Map พอสมควรเลยทีเดียว

4. Naver Map ในหลาย ๆ รวมถึงประเทศเราจะใช้ Google Map เพื่อค้นหาเส้นทาง แต่มาถึงเกาหลีหากคุณต้องการค้นหาปลายทางได้อย่างถูกต้อง ต้องใช้ ”Naver Map” เท่านั้นที่จะสามารถบอกเส้นทางได้อย่างแม่นยำและละเอียดมาก โดยคนใหญ่ชาวเกาหลีเองก็มักจะนิยมใช้แอพนี้มากกว่าใช้ google map ถึงแม้จะเป็นแอฟที่มีแต่ภาษาเกาหลีแต่วิธีการใช้งานง่ายๆไม่ยุ่งยากเลย

5. Subway Korea แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนที่จำเป็นอย่างยิ่งเมื่อไปเที่ยวเกาหลี เพราะ app นี้เป็นตัวช่วยหลักที่สำคัญในการเดินทางหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะของเกาหลีทั้งหมด การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในเกาหลีนั้นค่อนข้างที่จะเยอะเพราะรถไฟที่เกาหลีมีหลายสายหลายเส้นทางมาก การโหลดแอพพลิเคชั่นนี้มาใช้สามารถเช็คเวลาการเดินรถ เช็คเส้นทางไป-กลับว่าต้องไปสายสีอะไรรถไฟสายไหนลงสถานีอะไร ถึงจะไปถึงจุดหมายของเราที่ต้องการ สามารถดาวน์โหลดใช้ได้ฟรี

6. Kakao Metro เมื่อไปที่เกาหลี เรามักต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือ Subway กันเป็นหลัก หลายคนเห็นแผนที่รถไฟฟ้าครั้งแรกก็เรียกได้ว่างงตาแตกกันไปเลยทีเดียว เพราะที่นี่จะมีสายรถไฟให้ขึ้นอยู่เยอะมากกกกกกกกก เป็นหลักสิบสาย แอป Kakao Metro ช่วยตรงนี้ได้มาก วิธีคือให้เราเลือกใส่ชื่อสถานีต้นทางกับปลายทาง แอปจะช่วยคำนวณให้เราทั้งหมด ตั้งแต่ค่าโดยสาร ระยะเวลา รวมถึงที่สำคัญที่สุดอย่างการเปลี่ยนสายรถไฟ นอกจากนี้ยังมีตารางเวลาบอกการมาของรถไฟแต่ละสายด้วยนะ เดินทางแบบไม่ต้องกลัวงง ไปตามแอพได้เลย!

7. Kakao Bus นอกจากรถไฟใต้ดินแล้ว อีกหนึ่งช่องทางโดยสารคุณภาพที่เค้าฮิตกันมากๆ ก็คือรถบัสนี่แหละ เพราะรถบัสที่นี่นั่งไม่ยาก และคุณภาพดี โดยแอป Kakao Bus จะช่วยให้เราค้นหาสายรถเมล์ สีรถ เวลาวิ่ง ค้นหาป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด เส้นทางเดินรถของรถเมล์แต่ละสาย รวมไปถึงดูว่าป้ายที่เรายืนอยู่ จะมีรถเมล์สายไหนผ่านมา ภายในเวลากี่นาทีด้วย ความยากของแอปนี้ก็คือชื่อป้ายรถเมล์จะเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด เพราะฉะนั้นอาจต้องอาศัยการก็อปปี้แล้วกดค้นหา หรือเทียบชื่อป้ายในแอปกับของจริงกันดู

8. Kakao Texi แอพที่ดีที่สุดในการเรียกใช้บริการรับส่งแท็กซี่ ซึ่งถือว่าเป็นแอพที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนในเกาหลีสามารถใช้บริการแท็กซี่ได้อย่างง่ายดาย การใช้งานก็ง่ายมาก เลือกสถานที่ที่เราอยู่ในตอนนี้และสถานที่ที่เราต้องการไปและกดปุ่มโทรออกล่าสุดก็เสร็จสิ้น มันจะช่วยให้ลดเวลาการเดินทางได้เป็นอย่างดี สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางแบบเป็นส่วนตัวหรือเดินทางไปบริเวณไกล้ๆ แอพนี้เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหากไม่ต้องการยุ่งยากในการใช้รถเมล์ แต่อาจต้องใช้แอพเสริมในการแปลภาษาเกาหลี

9. Uber การเดินทางด้วยรถสาธารณะในประเทศเกาหลี โดยเฉพาะในโซลถือเป็นเรื่องง่ายมากๆ และสะดวกๆ มากอีกด้วย แต่บางครั้งเวลาไปเที่ยวก็อาจจะมีการกลับดึก กลับเช้า ไม่ทันรถรอบสุดท้ายกันบ้าง ถึงแม้ว่าการเรียกแท็กซี่ในเกาหลีจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเท่าไหร่ แต่บางจุดอาจจะเรียกยากเพราะนักท่องเที่ยวเยอะ ถ้ามีแอพ Uber ติดไว้ก็ดีกว่า เผื่อใช้ในเวลาคับขันค่ะ

10. Cash Walk แอปนี้เป็นของแถมที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่มีแล้วสนุกขึ้นแน่นอน Cashwalk เป็นแอพที่เหมาะกับคนที่รักในการเดินเอามากๆ Cashwalk เป็นแอพที่ให้เราสะสมแต้มผ่านการเดินในแต่ละวันโดยนับเป็นก้าว ถ้าหากเดินครบจำนวนก้าวตามเป้าที่กำหนดเมื่อไหร่ก็สามารถแลกของรางวัลได้เลย มีตั้งแต่อาหาร ขนม เครื่องสำอาง

ข้อแม้ของการใช้แอปนี้คือเราจะต้องลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรของเกาหลีก่อน ใครที่ไปเที่ยวแล้วเปิดเบอร์ใหม่ที่นู่นด้วยก็อย่าลืมโหลดไปไว้เล่นกันนะ!

11. Mango Plate เดินทางกันแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือของกิน โดยปกติแล้วเราสามารถค้นหาร้านอาหารชื่อดังได้ง่ายๆ จากการเสิร์ชบน Google นี่แหละ  แต่อีกวิธีที่เราอยากแนะนำให้ลองคือค้นหาร้านอาหารผ่านแอพ Mango Plate แอปนี้จริงๆ ใช้ได้ตั้งแต่ที่ไทยเลยแหละ แล้วก็เวิร์คเมื่อไปเกาหลีเหมือนกัน โดยสามารถกดเลือกชื่อย่านที่เราอยู่ เลือกร้านได้จากชื่อ ระยะทาง รวมไปถึงคะแนนดาวที่ได้ด้วย เปิดประสบการณ์กินข้าวแบบ Local กันได้ด้วยแอปนี้นี่แหละ

12. Guide Michelin หากพูดถึงร้านอาหารชื่อดังในปัจจุบันแล้ว คงไม่แคล้วเอ่ยถึง Michelin guide ซึ่งร้านที่จะได้รับรางวัลนี้ มักจะได้รับการการันตีในระดับหนึ่งว่าเป็นร้านอาหารชื่อดังและควรค่าแก่การมาชิม แล้วกว่าจะได้รางวัลนี้มาเรียกได้เป็นเรื่องที่หินมากทีเดียว และเมื่อได้มาแล้ว การรักษารางวัลนี้ให้คงอยู่ดูจะหินยิ่งกว่า

13. Xe (Exchange) “XE Currency” คือแอพเช็คอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้งานง่าย เพราะมีระบบอินเตอร์เฟสที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางหรือทำธุรกิจระหว่างประเทศอยู่บ่อยๆ จุดเด่นของแอพนี้อยู่ตรงที่ฟังก์ชั่นในการเช็คอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถเลือกหลายๆหน่วยเงินภายในครั้งเดียวได้ เช่นการแปลงค่าเงินไทย เป็นดอลลาร์ ปอนด์ และวอนภายในครั้งเดียว

14. SuperRichTH รับแลกเปลี่ยนเงิน มีสาขาทั่วกรุงเทพ สะดวกรวดเร็ว การันตีอัตราแลกเปลี่ยนเงินเรทดีที่สุด ทุกสกุลเงิน ควรจะแลกเงินที่นี่ไว้ก่อนเดินทางเลยค่ะ และหากเงินเหลือสามารถเช็คอัตราแลกเปลี่ยนก่อนกลับไทยได้ด้วย

15. Papago แอพแปลภาษาด้วยเสียง Papago เป็นแอพจากบริษัทชื่อดังอย่าง NAVER ของเกาหลีใต้ สังเกตง่ายจากไอคอนแอพรูปนกแก้วสีน้ำเงินปากเขียวน่ารัก มีนิยามสั้นๆ ว่าเป็น AI Translator โดย Papago ครอบคลุมการแปลภาษาที่ผู้คนทั่วโลกส่วนใหญ่ใช้งาน ทั้งเกาหลี อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, ไทย, เวียดนาม, ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี ฯลฯ

ซึ่งใน Papago ใช้งานได้ทั้งการแปลเสียง บทสนทนา คำศัพท์บนรูปภาพ ลายมือ สังเกตได้ว่าภาษานั้นๆ รองรับการแปลด้วยเสียงหรือไม่ ปุ่ม Voice ในแอพจะสามารถกดเพื่ออัดเสียงได้ ส่วนใครที่แปลภาษาผ่านคอมพิวเตอร์เป็นหลัก Papago ก็มีบริการแปลคำศัพท์และประโยคบนหน้าเว็บไซต์ หรือ Copy link หน้าเว็บไซต์ภาษาอื่นมาแปลก็ได้ นอกจากนี้ Papago ยังใช้งานแบบ Offline ไม่ต้องต่อเน็ตได้ด้วย สามารถดาวน์โหลด Papago ได้ฟรีทั้ง Android และ iOS

16. iTranslate สำหรับใครที่ต้องใช้แอพแปลภาษาด้วยเสียงอย่างจริงจังหรือใช้งานบ่อย ขอแนะนำ iTranslate Translator แอพที่ใช้งานได้แม้จะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม (Offline Mode) รองรับทั้งการแปลเสียงและภาพถ่าย ไม่มีโฆษณาเข้ามาเกะกะขณะใช้งาน สามารถเปิดฟังเสียงอ่านและปรับความเร็ว-ช้าของเสียงตัวอย่างได้ แปลได้ถึง 44 ภาษา

แต่ iTranslate Translator เปิดให้ใช้งานฟรีเพียง 7 วันเท่านั้น หลังจากนั้นต้องจ่าย 169 บาทต่อเดือน หรือ 1,300 บาทต่อปี เมื่อมาหารเฉลี่ยแล้วก็ตกเดือนละ 108 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากใช้งานฟรีแค่ 7 วันแรก ก็สามารถยกเลิกก่อนครบ 7 วันได้

สามารถดาวน์โหลด iTranslate Translator ได้ทั้ง Android (ฟรี 7 วัน หลังจากนั้น จ่ายเดือนละ 169 บาท หรือปีละ 1,300 บาท) และ iOS (ฟรี 7 วัน หลังจากนั้น จ่ายเดือนละ 169 บาท หรือปีละ 1,300 บาท)

17. Trip.com

จองโรงแรม  จองเที่ยวบิน

…….





บินลัดฟ้าไปกับอันยองไปกับอันยองแล้วได้อะไรบ้าง?ถูกกว่า Walk in !!!!      นอกจากได้โปรโมชั่นตรงจาก ร.พ.แล้ว คุณลูกค้าจะได้รับการดูแล ระดับVIP จาก ANNYEONG AGENCYทีมงานของเราทุกฝ่ายเราพร้อมสแตนบายดูแลคุณตลอดการไปทำสวยที่เกาหลีบริการในเรื่องของ Serviece ให้ ฟรี ไม่บวกเพิ่ม จึงถูกกว่าไปเองช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก  พร้อมอำนวยความสะดวก และประสานงานเอกสารกับองค์กรต่างๆ ช่วยให้การไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัยมากที่สุดส่งลูกค้าขึ้นเครื่อง มีพนักงานต้อนรับถึง gate สนามบิน บริการดูแลทุกขั้นตอน ก่อน-หลังผ่าตัด-พักฟื้น-โรงแรม จนส่งคุณถึงสนามบิน 

อันยอง เอเจนซี่ ร.พ.อันดับ1 หมอมือ1ในเกาหลี เพราะเรามีรายชื่อเคสศัลยกรรมอยู่ในมือ 40 ร.พ. แนะนำได้ว่า ทำที่ไหน ดีที่สุด ตรงไปตรงมา

เพราะเเต่ละ ร.พ. มีจุดเด่นความเชี่ยวชาญนั้นต่างกัน แนะนำให้เหมาะสมกับลูกค้า

ร.พ.ไหน เก่งสุด ด้านทำโครงหน้า

ร.พ.ไหน เก่งสุด ด้านทำตา

ร.พ.ไหน เก่งสุด ด้านทำจมูก

ร.พ.ไหน เก่งสุด ด้านศัลยกรรมรูปร่าง

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วย ทุก ร.พ.ในเครือของเรา ต้องเป็น ร.พ.ที่ผ่านมาตรฐาน มีงานวิจัยรับรอง มีผลงานระดับโลก

 ดาราไทย ดาราเกาหลี ไว้วางใจ ใช้บริการ

เพราะผลงานหมอ ร.พ.เกาหลี เนียนละมุนกว่าจริง

เพราะเทคนิคพิเศษเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ

แถมราคายังพอๆกับทำที่ไทย


ทักปรึกษาศัลยกรรม โดยศัลยแพทย์ Let Me in

ส่งรูป ประเมินราคาก่อนเข้ารับบริการ


ไปกับ อันยอง เอเจนซี่

นอกจากราคาศัลยกรรมจะเท่ากันกับ ร.พ.แล้ว

เอเจนซี่ยังมีบริการ VIP Service ให้ฟรีทุกขั้นตอนอีก


อันยองเอเจนซี่ อำนวยความสะดวกลูกค้าทุกอย่าง

VIP Sirvice Full Option ที่อันยองเอเจนซี่มีให้


ฟรี ทีมงานดูเเลตลอดที่เกาหลี

ฟรี เอกสารยืนยันการผ่าตัด

ฟรี ล่ามจาก ร.พ.

ฟรี ล่ามส่วนตัวผ่านมาตรฐานความรู้ทางการแพทย์

ฟรี พนักงานต้อนรับที่สนามบิน

ฟรี รถรับส่ง รถยนต์ส่วนตัว case by case

ฟรี ประกันเดินทาง คุ้มครอง 1.5 ล้านบาท

ฟรี ค่าตรวจร่างกาย

ฟรี Tax Refund

ฟรี Welcame Dinner มื้ออาหารสุดพิเศษ

ฟรี ฉายแสง ลดบวม ทรีตเมนต์

ฟรี ยา

ฟรี อาหารลดบวม 7 วัน

ฟรี ค่าห้อง ร.พ.

ฟรี ค่าโรงแรม

ในส่วนนี้ ถ้าไม่ได้จองผ่านอันยองเอเจนซี่ ลูกค้าจ่ายค่าServiceเองนะคะ

สรุปแล้ว จองกับอันยองเอเจนซี่ถูกกว่า เพราะมีฟรี Serive ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ งบไม่บานปลาย

  สำหรับลูกค้าคนไทยในไทย จะต้องเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถจองคิวผ่าตัดได้ ขั้นตอนมีดังนี้


1. K-ETA :

รอ Annyeong Agency คอนเฟริ์มการลงทะเบียน K-ETA ก่อน ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติก่อนวันผ่าตัด อย่างน้อย 7 -14 วัน เพื่อให้ Annyeong Agency ส่งหลักฐานยืนยันคิวผ่าตัดกับทางโรงพยาบาลเกาหลี

*ถ้าไม่อนุมัติ K-ETA ไม่สามารถจอคิวผ่าตัดได้


2. จองคิวผ่าตัด :

ลูกค้าระบุวันตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด และระบุวันผ่าตัด กับที่ปรึกษาศัลยกรรมอันยองให้เรียบร้อย ส่วนเวลา จะเเจ้งใกล้วันผ่าตัดก่อน 1-2 วัน ว่าได้คิวกี่โมง


3.จองโรงแรม :

Annyeong Agency จะดำเนินการจองโรงแรมที่ใกล้กับโรงพยาบาลให้ลูกค้า


4.จองตั๋วเครื่องบิน :

Annyeong Agency จองตั๋วเครื่องบินโดยสายการบินการบินไทย โดยคำนึงถึงระยะเวลา ต้องถึงประเทศเกาหลีก่อนวันผ่าตัด 1 วัน เนื่องจากต้องรอผลตรวจ RT-PCR ที่เกาหลี เเละเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเกาหลี


5. จองประกันการเดินทาง T.A. (คุ้มครอง 1.5 ล้านบาท)


6. จองล่ามศัลยกรรมส่วนตัว


7. จองรถรับ-ส่ง ส่วนตัว VIP (เราใส่ใจคุณลูกค้า ไม่นั่งรวมกับใคร)


8. Annyeong Agency ส่งลูกค้าที่สนามบิน


9. ตรวจ ACC Lab

ตรวจที่สนามบิน ตั้งอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร2 ชั้น3 ทางออกประตู15 อยู่นอกอาคารผู้โดยสาร ตรงถนนด้านหน้า ค่าตรวจ ATK 500-700 บาท RT-PCR 1,800 บาท (walk-in) จองคิวก่อนเข้าตรวจ LINE: @acclab 1,500 บาท เปิดทำการ 6:00-20:00น. (ทราบผลประมาณไม่เกิน 1 วัน)


10. วันที่เดินทางไปเข้ารับการตรวจ เตรียมเพียงเอกสารประจำตัว Passport หรือบัตรประชาชน และเงินค่าตรวจ

……………………



เอกสาร 4 อย่าง ที่ต้องเตรียมก่อน Check-in

*เอกสารทุกฉบับ ต้องปริ้นเอกสารแสดงหน้าเคาเตอร์ *ไม่สามารถใช้เป็นรูปในมือถือได้ )

1. พาสสปอร์ต (ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป)

2. ใบ K-ETA (มีอายุ 2 ปี)

3. Q-Code เอกสารขอละเว้นการกักตัวที่เกาหลี

ใบผลตรวจ RT-PCR Covid-19 ที่เป็นผลลบ ก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง (ภาษาอังกฤษ)

4. ตั๋วเครื่องบิน

5.ใบวัคซีน-พาสสปอร์ต :

ต้องฉีดวัคซีนแล้ว ไม่เกิน 180 วัน ถ้าเกินวัน ให้ฉีดวัคซีนเข็มใหม่ หลังฉีดแล้ว 14 วัน




Website

กดติดตาม

Contact Us


……………………………………

ที่มา : https://www.chilloutkorea.com/7-apps-for-korea-travel/ https://www.mangozero.com/6-apps-to-survive-when-you-go-to-korea/ https://th.blog.kkday.com/3667/must-have-6-korea-app/ https://www.shopback.co.th/blog/tech-gap-แอพแปลภาษาด้วยเสียง/ https://food.trueid.net/detail/kb4KBp8Rlj35 https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/5-แอปการเงิน/ https://www.superrichthailand.com/#!/en/exchange

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/Xsvt9bK

  2. เยี่ยมชมโปรไฟล์ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://www.oppame.co.th/annyeong

Comentários


bottom of page