สวยทันใจในชาตินี้! เปลี่ยนหน้าใหม่ที่ ร.พ.บาโนบากิ

สวัสดีค่ะวันนี้ Daesong Exclusive ขออนุญาตเช็คประชากรที่มีปัญหาไม่มั่นใจเกี่ยวกับรูปหน้าของตัวเองหน่อย.. ไหนมีใครบ้างที่รู้สึกไม่มั่นใจในรูปหน้าของตัวเอง!? วันนี้เราจึงจะยกตัวอย่าง หนึ่งเคสรีวิวศัลยกรรมปรับโครงหน้า 3 จุด ของโรงพยาบาลบาโนบากิมาให้ชมกัน เพราะไม่แน่ว่าส่วนของใบหน้าที่เธอต้องการจะแก้ไข อาจจะเป็นจุดเดียวกัน กับที่ทุกคนกำลังอยากจะลองปรับเปลี่ยนบนใบหน้าของตนเองอยู่ก็ได้

เปิดมาที่รูปหน้าเดิมของเธอก่อนการผ่าตัด จะเห็นได้ว่า เธอเป็นคนที่มีรูปโครงหน้าค่อนข้างใหญ่ สังเกตุได้จากช่วงกราม และบริเวณโหนกแก้มที่ค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอไม่ค่อยมั่นใจในรูปหน้าของตนเอง จนไม่กล้าสวมหมวก หรือมัดรวบผมเวลาออกจากบ้าน เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้คนอื่นสามารถเห็นรูปหน้าที่เธอไม่มั่นใจนั้นได้ชัดเจนมากขึ้น

ซึ่งแต่เดิมเธอเป็นคนที่มีความคิดฝันอยากจะทำศัลยกรรมปรับโครงหน้ามาโดยตลอด แต่ด้วยความกังวลเรื่องการผ่าตัด รวมถึงเรื่องค่ารักษาจึงทำให้เธอยังไม่กล้าที่จะเข้ารับการทำศัลยกรรมสักที… จนกระทั่งเธอได้มารู้จักกับโรงพยาบาลบาโนบากิ

เธอได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลบาโนบากิว่า เธอชอบที่คุณหมอสามารถวิเคราะห์สิ่งที่เธอกังวลใจออกมาได้ ทั้งที่เธอยังไม่ได้บอกอะไร แถมทั้งยังคอยให้คำแนะนำเธออย่างใกล้ชิดว่า ตรงจุดไหนที่ควรปรับจริงๆ และตรงจุดไหนที่ไม่จำเป็นต้องปรับ

นอกจากคำแนะนำของศัลยแพทย์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมที่โรงพยาบาลบาโนบากินั้น ก็คือความมีมาตรฐาน ปลอดภัย และการบริการที่ดีของโรงพยาบาล เพราะที่นี่จะมีทีมแพทย์คอยดูแลตอนฉุกเฉิน และมีวิสัญญีแพทย์ประจำโรงพยาบาล จึงยิ่งทำให้เธอรู้สึกมั่นใจ และไว้วางใจที่จะผ่าตัดศัลยกรรมกับที่นี่เป็นอย่างมาก

รีวิวภายหลังการผ่าตัด #ศัลยกรรมปรับโครงหน้าสามจุด ที่โรงพยาบาลบาโนบากิ

: หลังออกมาจากห้องผ่าตัด ก็รู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะทีมแพทย์ และพยาบาลจะคอยช่วยพูดคุยให้เรารู้สึกสบายใจมากขึ้น

: ผ่านไประยะแรกหลังการผ่าตัด บริเวณหน้าจะมีอาการบวมมาก และรู้สึกร้อนๆ จึงต้องคอยประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ

: หลังการผ่าตัดครบ 1 สัปดาห์ อาการโดยรวมเริ่มดีขึ้น ใบหน้าเริ่มยุบตัวลง รวมถึงบริเวณในช่องปากก็ยุบลงเช่นกัน และรอยช้ำบนใบหน้าเริ่มจางลง

: หลังการผ่าตัดเข้าสัปดาห์ที่ 2 ใบหน้าโดยรวมค่อยๆยุบลงเรื่อยๆ แต่จะยุบช้ากว่าในช่วงแรก

: หลังผ่าตัดครบ 1 เดือน ถึงแม้หน้าจะยังมีอาการบวมอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เธอก็เริ่มกล้าที่จะมัดรวบผมขึ้น ในแบบที่เธอเคยอยากทำก่อนหน้านี้ ในบริเวณช่วงกรามจะเห็นได้ชัดมากว่า ดูเรียวขึ้นเยอะ และช่วงนี้ก็เริ่มกลับมาทานอาหารได้สบายขึ้นมากกว่าปกติ เธอเล่าว่า..ส่วนหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมของเธอยุบช้ามากกว่าเคสทั่วไปนั้น อาจเป็นเพราะอาชีพของเธอมักจะต้องนั่งอยู่ที่เดิมเลยไม่ค่อยมีเวลาได้ออกไปเดิน หรือดูแลตัวเองมากนัก

: หลังผ่าตัดครบ 3 เดือน ช่วงนี้ยังคงอ้าปากได้ไม่กว้างเท่าไหร่ จึงยังต้องคอยฝึก และบริหารอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็สามารถรับประทานอาหารต่างๆได้มากขึ้น เพราะไม่ได้มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว ส่วนเรื่องอาการใบหน้าบวมนั้น ยังมีบางวันที่หน้าบวมบ้าง เธอก็จะใช้วิธีประคบเย็นลดอาการบวม แต่ถึงแม้ใบหน้าจะยังยุบบวมไม่หมด เธอก็รู้สึกได้ถึงใบหน้าใหม่ที่ดูละมุนขึ้นมาก จนเธอเริ่มรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

: หลังผ่าตัดครบ 6 เดือน หน้าเริ่มเข้าที่ขึ้นมากกว่าเดิม ช่วงนี้เธอเลยมัดผมตลอด เวลาออกไปข้างนอก แถมยังซื้อหมวกมาลองใส่ในแบบที่ปกติแล้วเธอไม่กล้าทำเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง เธอรู้สึกประทับใจกับผลลัพธ์มาก เพราะคนส่วนมาก ถ้าไม่บอกจะไม่รู้เลยว่าเธอทำศัลยกรรมมา เพราะใบหน้าของเธอดูสวยเป็นธรรมชาติจริงๆ ส่วนตัวที่ทศัลยกรรมแล้ว เธอรู้สึกว่าคุ้มมาก และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้บ้าง

ทั้งนี้หากใครที่สนใจ ศัลยกรรมเกาหลีปรับโครงหน้าที่โรงพยาบาลบาโนบากิ ทางเราต้องขอแนะนำเลย เพราะโรงพยาบาลนั้นนอกจากจะมีมาตรฐานความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังได้รวบรวมทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไว้อย่างมากมาย

และหากใครที่สนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษารายละเอียด สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่พิกัดช่องทางการติดต่อด้านล่างกระทู้นี้เลยค่ะ

1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/ApP1bLc

2. เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://oppame.co.th/daesong-exclusive/consultant/daesong-exclusive/

#BanobagiPlasticSurgery