top of page
oppame ศัลยกรรมเกาหลี (1) (1).png
Search
Writer's pictureOppa Me Academy

ฟิลเลอร์ VS โบท็อกซ์

ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ปี 2022 วินาทีนี้บอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เชื่อว่าหลายๆคน คงประสบปัญหากวนใจ อย่างเช่น หน้าบาน กรามใหญ่ ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ใต้ตาเป็นร่องลึก ปากทรงไม่สวย ทาลิปก็ลำบาก อยากรู้วิธีแก้ปัญหากันแล้วใช่ไหมค่ะ แต่การจะเลือกแก้ปัญหาให้ถูกวิธีนั้นมันไม่ง่ายเลยเรายังขาดข้อมูลในการเลือก ทั้ง 2 สิ่งนี้อยู่คู่กับสาว ๆ มานาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในความแตกต่างของ โบท็อก และ ฟิลเลอร์ วันนี้เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ต่างกันยังไง ทำไมต้องเลือก ?​ 


ฟิลเลอร์ (Filler): เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยให้หน้าเต็มละมุน ฟิลเลอร์ถึงใช้เพื่อเติมเต็มความสวยให้ละมุนได้ เติมเต็มใส่ไปในส่วนที่หายไป หน้าที่ยังไม่ได้รูป หน้าไม่เต็ม เช่น ขมับตอบ หน้าตอบ ใต้ตาโบ๋ใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก ก็ไปเติมให้ปัญหาแต่ละจุดนั่นเติมเต็มขึ้น ให้หน้าในส่วนที่ขาดหายไปนั่นเต็มขึ้นละมุนขึ้นอย่างแน่นอนโบท็อกซ์ (Botox) : จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอย รอยที่เกิดจากการที่เราแสดงสีหน้าและอารมณ์มากเกินไปเป็นร่องรอย เช่น รอยย่นตรงหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นตรงหว่างคิ้วเวลาขมวดคิ้ว การที่เราแสดงสีหน้าเวลาเม้าท์กับเพื่อน


มากเกินไปก็จะเกินร่องรอยทิ้งไว้ เจ้าโบท็อกซ์ก็สามารถแก้ได้เฉพาะตรงจุดเลย หรือตรงกรามที่ใหญ่ปัญหาหน้าบานเราก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ช่วยได้

ผลลัพธ์ ซึ่งผลลัพธ์ของ โบท็อก และ ฟิลเลอร์ มีความแตกต่างกัน อย่างที่กล่าวมาคือโบท็อกซ์จะช่วยในการลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง และช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดย่น ให้กลับมาเรียบเนียนตึงได้อีกครั้ง โบท็อกจึงเปรียบเสมือนเตารีด ส่วนการฉีดฟิลเลอร์เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้ดูสมส่วนและมีมิติยิ่งขึ้น ตำแหน่งที่ฉีด โบท็อกและฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุด ดังนี้

ตำแหน่งการฉีดโบท็อก

  1. ลดกราม

  2. ลิฟท์กรอบหน้า

  3. ลดน่อง

  4. ลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว

  5. ผิวหนังบริเวณคอ มือที่เหี่ยว

  6. บริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกายข้อ


ข้อปฏิบัติหลังการฉีดโบท็อกซ์


พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่รักษาทุก 15 นาที นานประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น เช่น ถ้าฉีดรอบดวงตา ควรยิ้มทุก 15 นาทีใน 4 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา


หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้


สามารถล้างหน้าได้ หลังการรักษา 4 ชั่วโมง และสามารถทาครีม เครื่องสำอางค์ได้ในวันถัดไป


หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีด 3-5 วันหลังการรักษา


ถ้ามีรอยช้ำสามารถประคบเย็นได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ภายหลัง 24 ชั่วโมงสามารถประคบด้วยน้ำอุ่น


หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ของขบเค้ี้ยว หมากฝรั่ง


หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า หลังการรักษาด้วยโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์


หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หลังการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์


รอยนูนหลังฉีดจะค่อยๆหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังการฉีด สามารถประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นได้


ตำแหน่งการฉีดฟิลเลอร์

  1. ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาลึก ช่วยให้ดูตื้นขึ้น ดวงตาสดใส ไม่หมองคล้ำ

  2. ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้อิ่มเต็มยิ่งขึ้น ช่วยให้ใบหน้าไม่โทรมและดูเด็กขึ้น

  3. ร่องแก้ม ช่วยให้ร่องแก้มลึกดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด

  4. แก้มส้ม ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าเอิบอิ่ม อ่อนเยาว์ ใบหน้าหวานละมุน และมีมิติขึ้น

  5. คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม เมื่อฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มให้คางได้รูปสวยงาม

  6. จุดสุดท้ายที่เป็นที่นิยมสุดๆก็คือ ปาก เพราะจะช่วยให้ปากดูอวบอิ่มน่าจุ๊บยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเติมฟิลเลอร์ หรือฉีดโบท๊อก อะไรที่ทำแล้ว ทำให้สาวๆมั่นใจขึ้น สวยขึ้นก็ทำเลยค่ะ เพราะผู้หญิงอย่าหยุดสวย แต่ที่มากไปกว่าความสวยคือการเตรียมตัวก่อนไปฉีด สำหรับคนที่อยากหายไว สวยเร็ว แนะนำให้สาวๆทานหยุนหนานเขียว 3 กล่อง ล่วงหน้าก่อนทำ 3 วัน และทานต่อเนื่องหลังฉีดอีก 5 วัน รวม 8 วัน แต่ถ้าบวมช้ำง่ายแนะนำทานคู่บัวบกและเหล่งเอี๊ยง extra นะคะ

การฉีดฟิลเลอร์จะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญ เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องฉีดวางฟิลเลอร์ให้ถูกตำแหน่ง เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อนอยู่บนหน้า

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง จะใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะใช้เวลาฉีดฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณ30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ คนไข้จะเห็นความแตกต่างในบริเวณที่ฉีดทันที และผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์จะสวย ดูเป็นธรรมชาติหลังจากฉีดไปแล้ว 4-5 วัน เนื่องจากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ในบางเคส อาจจะมีอาการบวมแดงและช้ำอยู่บ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

7 ข้อปฏิบัติควรรู้ หลังฉีดฟิลเลอร์

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

หลังการฉีดฟิลเลอร์ไป สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือห้ามนวด กดรวมถึงการสัมผัสแรงๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด และในบางเคส แพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้ หรือทำให้ไม่ได้ผลเลย

ทั้งนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้มีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้หากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อความปลอดภัย

2. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน

โดยปกติแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่ความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซตตัวของฟิลเลอร์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวอาจจะมีความเซนซิทีฟมากกว่าปกติด้วยรอยเข็มหลายๆ รูบนหน้า การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้น

3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้

ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรสกระเทียม โสมและวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสารเหล่านั้นจะทำปฎิกริยาหรือส่งผลร้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่สารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด

ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด เป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า ทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและไม่เสี่ยงช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์

5. หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ ถอน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน

หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีความบอบบางลงชั่วคราว ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งหากในระหว่างนี้ มีการกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆ เช่น การแว็กซ์ขน ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน หรือทำการย้อมสีเส้นขน ก็อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุด

6. ดื่มน้ำมากๆ

ฟิลเลอร์ คือ สารไฮยาลูลอนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4-5 วันแรก แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงทน เพราะการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มเป็นธรรมชาติ

7. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ ของมึนเมา ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะฟิลเลอร์จะสลายหรืออยู่ไม่นาน แต่เป็นเพราะคนไข้จะไม่มีสติดูแลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป อาจจะเผลอนวด เผลอเท้าคางได้ และการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีดอาจจะทำให้เลือดออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

การสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น สูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก อาจจะทำให้รูปลักษณ์ที่คุณหมอสร้างขึ้นมาเป็นปากกระจับอาจจะผิดรูปได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้งดเหล้า แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยประมาณ 2-3 วัน

ข้อควรปฎิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องง่ายๆที่ไม่เกินความสามารถของทุกคน ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี สวยดูเป็นธรรมชาติ และผลคงอยู่ยาวนาน ก็ควรทำปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด หรือถ้ายังไม่มั่นใจว่ามีอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำมากกว่านี้หรือไม่ ที่ APEX มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทางด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง พร้อมจะให้คำแนะนำ แก้ปัญหาริ้วรอยด้วยสารเติมเต็มอยู่ เพราะเรื่องของริ้วรอยนั้นมองข้ามกันไม่

#오빠미광고_โรงพยาบาลศัลยกรรมวิว #oppame#오빠미광고_viewplasticsurgery #Oppme #오빠미광고 #viewplasticsurgery #오빠미고 #ศัลยกรรมเกาหลี#โรงพยาบาลศัลยกรรมวิว #koreandoctor #MG🧚‍♀️ #maicgeous #MAicgeous🧚‍♀️ #OPPAME #oppame #surgery #koreandoctor #오빠미글로벌 #오빠미광고 #오빠미태국 #ศัลยกรรมความงามเกาหลี #โรงพยาบาลเกาหล#ศัลยกรรมเกาหลีที่ไหนดี #หมอเกาหลี#นึกถึงความงามนึกถึงเรา #ความงามเสกได#เอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี #โปรโมชั่นศัลยกรรมความงาม #ไปศัลยกรรมเกาหลีที่ไหนดี

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: http://line.me/ti/p/~aisikan

  2. เยี่ยมชมโปรไฟล์ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://www.facebook.com/MagicGorgeous

Comments


bottom of page