top of page
oppame ศัลยกรรมเกาหลี (1) (1).png
Search
Writer's pictureOppa Me Academy

ข้อควรทราบก่อนใช้บริการ ที่ปรึกษาศัลยกรรม ตอนที่ 1

            จากบทความที่แล้วได้กล่าวถึง หน้าที่ของที่ปรึกษาศัลยกรรม ทีมผู้ช่วย และทีมผู้ดูแล ว่ามีอะไรบ้างไปแล้วใช่ไหมคะ ครั้งนี้จะขอกล่าวถึง ข้อควรทราบก่อนใช้บริการ ที่ปรึกษาศัลยกรรม ซึ่งเจตนาของการเขียน เพื่อให้ลูกค้าแจ้งข้อมูลต่างๆมา แบบไม่ตกหล่น จะทำให้ทางเราบริการได้ไวยิ่งขึ้นค่ะ มาดูไปพร้อมๆกันเลยนะคะ ว่าข้อควรทราบทั้งหมดมีอะไรบ้าง?

ข้อควรทราบก่อนใช้บริการ ที่ปรึกษาศัลยกรรม

1. ลูกค้าแจ้งความต้องการให้ชัดเจน ประวัติการทำศัลยกรรม และข้อมูลสำคัญบางเรื่อง


ลูกค้าอยากศัลยกรรมอะไรบ้าง อยากได้อะไรแบบไหน ให้แจ้งมาอย่างละเอียดได้เลยค่ะ เช่น อยากมีจมูกทรงพุ่งๆ แบบสายฝอ อยากตาหวานๆเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ ก็แจ้งมาได้เลยค่ะ บางท่านอาจจะคิดว่าแจ้งที่ปรึกษาศัลยกรรมไปแล้ว จะโดนมองว่าเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า ขอตอบเลยนะคะ ไม่โดนมองแบบนั้นเลยค่ะ หากไม่บอกความต้องการตั้งแต่แรก ที่ปรึกษาศัลยกรรมจะเลือกคุณหมอกับโรงพยาบาลหรือคลินิก ได้ไม่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าค่ะ

ลูกค้าอยากได้จมูกสายฝอ โด่งแบบดูพุ่งๆ แต่ที่ปรึกษาศัลยกรรม แนะนำคุณหมอที่ถนัดทรงเกาหลีน่ารักๆ ไม่ถนัดทำจมูกทรงที่ดูพุ่งๆ ก็เท่ากับไม่ตรงโจทย์ที่ลูกค้าให้มาค่ะ เพื่อไม่ให้ตัวลูกค้าเองเสียเวลากับการเลือก แล้วเป็นการเลือกในแบบที่ยังไม่ตอบโจทย์ตนเอง ให้บอกความต้องการแบบละเอียดตั้งแต่ต้นเลยนะคะ ลูกค้าจะได้ดูข้อมูลที่ตรงกับความต้องการด้วย และทางเราก็ให้บริการลูกค้าได้ไวและเหมาะกับลูกค้าด้วยค่ะ

            หากลูกค้าเคยศัลยกรรมมาก่อน ไม่ว่าจะศัลยกรรมอะไรมาก็ตาม ให้แจ้งมาด้วยนะคะ แจ้งมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จำได้และแจ้งได้ ให้แจ้งวัน เดือน ปี ที่เคยทำศัลยกรรม และให้แจ้งถึงวัสดุที่ใช้ ในการทำครั้งก่อนๆ รวมไปถึงเทคนิคการผ่าตัดในครั้งก่อนๆด้วย นอกจากนี้ให้แจ้งถึงปัญหาที่มี ที่ทำให้รู้สึกอยากแก้ไขด้วยค่ะ เช่น เคยทำจมูกมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ปี พ.ศ.2563ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปในการเสริม ผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบปิด (แบบ Close) จมูกดูเบี้ยวๆทรงไม่เข้ากับหน้าตัวเอง มีพังผืดเยอะ จึงอยากแก้ไข (หากเคยทำมาแล้ว ให้แจ้งข้อมูลประวัติการทำ ตามตัวอย่างที่เอ่ยไปเลยค่ะ)


สำหรับข้อมูลสำคัญบางเรื่อง ที่ต้องแจ้งกับที่ปรึกษาศัลยกรรม ก็มีในเรื่องของโรคประจำตัวยาควบคุมโรคที่ทานเป็นประจำ อาหารเสริมที่ทานประจำ ประวัติการติดเชื้อโควิด และประวัติการผ่าตัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องศัลยกรรม เช่น ผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ ทั้งหมดนี้ให้แจ้งมาด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ช่วยกันวางแผนการศัลยกรรม ให้เหมาะสมกับลูกค้าและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

2. แจ้งงบที่จ่ายได้ ในการทำศัลยกรรม


เมื่อมีการศัลยกรรม หรือทำผิวให้สวยและใส แน่นอนว่าต้องมีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ตามมาใช่ไหมคะ เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในภายหลัง ให้แจ้งงบการทำศัลยกรรมที่ลูกค้าพอจะจ่ายได้ มาด้วยเลยนะคะ เพราะถ้าไม่แจ้งในตอนแรก ที่ปรึกษาศัลยกรรม อาจจะเลือกโปรโมชั่นได้ไม่เหมาะกับงบที่ลูกค้ามี แล้วถ้าหากค่าใช้จ่ายเกินงบที่ลูกค้าตั้งไว้ ลูกค้าก็จะเป็นคนที่ไม่สบายใจที่สุดเองค่ะ เพื่อให้ลูกค้าสบายใจ และเพื่อให้ที่ปรึกษาศัลยกรรม เลือกโปรโมชั่นศัลยกรรมให้เหมาะกับตัวลูกค้าเอง ให้แจ้งมาล่วงหน้าตั้งแต่ตอนแรกเลยนะคะ แบบนี้จะช่วยคุมค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าได้ดีเลยค่ะ

ในส่วนของการช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า ทางที่ปรึกษาศัลยกรรม จะช่วยได้แค่ในเรื่องการหาโปรโมชั่นที่เหมาะสม กับงบการทำศัลยกรรมที่ลูกค้ามีค่ะ แต่ถ้าในส่วนของการใช้จ่ายด้านอื่นๆ เช่น การซื้อของฝาก การเดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ตรงส่วนนี้ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายคุมค่าใช้จ่ายด้วยตนเองค่ะ

3. ส่งภาพถ่ายใบหน้าทุกมุม ให้ที่ปรึกษาศัลยกรรม


เมื่อลูกค้าตกลงทำศัลยกรรมแล้ว ไม่ว่าจำกี่รายการก็ตาม ให้ส่งภาพถ่ายของลูกค้า มาให้ทางเราด้วยนะคะ ภาพถ่ายของลูกค้า จะต้องเป็นมุมหน้าตรง มุมข้าง 45 องศา และมุมข้าง 90 องศา ที่สำคัญภาพถ่ายใบหน้าทุกๆมุม จะต้องเห็นใบหน้าชัดเจน ตามองกล้องในขณะถ่ายรูปไม่ถ่ายจากมุมที่สูง และไม่ถ่ายมุมเสย นอกจากนี้จะต้องไม่มีแสงและเงา ตกกระทบมากจนเกินไป พื้นหลังของภาพถ่ายจะต้องไม่มีอะไรกีดขวาง และห้ามปรับแต่งภาพถ่ายด้วยแอป หรือโปรแกรมใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากถ่ายภาพแล้วไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ จะทำให้ที่ปรึกษาศัลยกรรมทำงานยากขึ้นค่ะ


การถ่ายภาพใบหน้าของลูกค้า แล้วส่งมาให้ทางเรา นั่นก็เพื่อให้ทีมประเมินราคา ทำการประเมินราคาค่าทำศัลยกรรมนั่นเองค่ะ หากถ่ายภาพแล้วไม่ได้ตามลักษณะที่ระบุไปข้างต้น จะทำให้ทีมประเมินราคา แจ้งราคาได้ล่าช้า และอาจจะแจ้งราคาไม่ได้ด้วยค่ะ ทำให้ลูกค้าต้องส่งภาพถ่ายมาใหม่อีกรอบ แบบจะยิ่งทำให้ลูกค้ารอทราบค่าใช้จ่ายนานกว่าเดิม

นอกจากนี้อาจจะได้ราคาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงด้วยค่ะ เพราะถ้าหากใช้โปรแกรมแต่งภาพ เมื่อถึงวันที่ต้องพบคุณหมอจริงๆในตอนที่ไปเกาหลีใต้แล้ว หากคุณหมอพบว่ามีปัญหาตามจุดต่างๆ มากกว่าที่ได้ทราบในครั้งแรกๆ ค่าใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้นได้ค่ะ เมื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแล้ว และเกินงบที่ลูกค้าตั้งไว้ด้วย ลูกค้าอาจจะไม่สบายใจได้ค่ะ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าว ให้ถ่ายภาพตามที่แนะนำนะคะ

4. รอที่ปรึกษาศัลยกรรม แจ้งกลับมาในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ


เมื่อที่ปรึกษาศัลยกรรมทราบค่าใช้จ่ายโดยประมาณแล้ว จะทำการแจ้งมายังลูกค้าค่ะ หากไม่ต้องการทำศัลยกรรมรายการใดแล้ว ให้แจ้งตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ หากยกเลิกการทำศัลยกรรม ในช่วงที่ใกล้ๆกับวันผ่าตัด ทางโรงพยาบาลหรือคลินิก จะคิดค่าปรับกับลูกค้าค่ะ เพราะเป็นการทำให้คุณหมอกับทางโรงพยาบาลหรือคลินิก สูญเสียรายได้จากลูกค้าเอง และไม่ได้จากลูกค้าท่านอื่นๆด้วย จึงทำให้มีการคิดค่าปรับค่ะ แต่ละแห่งจะคิดค่าปรับไม่เหมือนกันด้วย หากลูกค้ารู้สึกว่าไม่อยากทำศัลยกรรมในบางรายการแล้ว ให้รีบแจ้งตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ

5. รอที่ปรึกษาศัลยกรรมตรวจสอบเอกสารลูกค้า


การเดินทางไปต่างประเทศ แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องของเอกสารต่างๆ ทั้งหนังสือเดินทางและรายละเอียดอื่นๆของลูกค้าที่สำคัญมากๆ ทางเราจำเป็นต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง หากเอกสารยังไม่ได้มีข้อมูลที่ปัจจุบันที่สุด เช่น หนังสือเดินทาง ใกล้หมดอายุแล้ว ทางที่ปรึกษาศัลยกรรมจะแจ้งกลับมายังลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทำเล่มใหม่ค่ะ และควรทำเล่มใหม่ ก่อนที่ทางเราจะจองคิวคุณหมอสำหรับผ่าตัด จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม และดำเนินการด้านอื่นๆ

การจองสิ่งใดๆก็ตามให้กับลูกค้า ต้องใช้ข้อมูลบนหนังสือเดินทางด้วยค่ะ หากไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน และได้ทำการจองไปแล้ว ภายหลังจากการจองเสร็จสิ้น ถ้าลูกค้าไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เลขบนหนังสือเดินทางเล่มเก่าและใหม่ จะไม่เหมือนกันค่ะ เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ด่านตม.ของประเทศเกาหลีใต้ ลูกค้าอาจจะเข้าประเทศไม่ได้ และอาจจะถูกมองว่าเป็นผู้แอบลักลอบ เข้าประเทศเพื่อไปทำสิ่งผิดกฎหมายได้ค่ะ ฉะนั้นก่อนที่ทางเราจะทำการจองใดๆให้ลูกค้า ทางเราจะตรวจเช็คหนังสือเดินทางให้ก่อน หากใกล้หมดอายุแล้ว ให้ลูกค้าทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ก่อน จะทำให้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลังค่ะ

6. จ่ายเงินมัดจำตามจำนวนที่ถูกระบุไว้ และแจ้งสถานะการจ่ายเงิน ให้กับที่ปรึกษาศัลยกรรม


เมื่อที่ปรึกษาศัลยกรรมได้แจ้งจำนวนเงิน ที่ต้องจ่ายเป็นค่ามัดจำไปแล้ว ให้ลูกค้ารีบโอนเงินค่ามัดจำเลยนะคะ ถ้าโอนช้าไป อาจจะลืมและไม่ได้ทำศัลยกรรม ในราคาโปรโมชั่นที่ลูกค้าต้องการค่ะ การโอนต้องยอดเงินตรงกับที่ทางเราระบุไปด้วยค่ะ ภายหลังจากโอนเสร็จแล้ว ให้แจ้งหลักฐานการโอนเงินค่ามัดจำ มายังที่ปรึกษาศัลยกรรมด้วยนะคะ ทางเราจะรีบตรวจสอบยอดโอน และประสานเรื่องการจ่ายค่ามัดจำของลูกค้า ไปยังโรงพยาบาลหรือคลินิกให้ค่ะ


            ตรงส่วนนี้เป็นบริการที่ทางเรามีให้ และทำให้ลูกค้าฟรีด้วยค่ะ ที่สำคัญลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างประเทศด้วยตัวเอง ทางเราจะเป็นฝ่ายดูแลให้ทั้งหมด บริการเสริมนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้านั่นเองค่ะ หลังจากที่ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำแล้ว ทางเราจะช่วยลงทะเบียน K-ETA ให้กับลูกค้าค่ะ บริการนี้ทางเราทำให้ฟรีเช่นกันค่ะ แต่ลูกค้าจะต้องเสียค่าลงทะเบียนให้กับทางระบบด้วยตัวเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 300 บาท โดยประมาณค่ะ

การลงทะเบียนดังกล่าวนี้ เป็นการลงเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศเกาหลีใต้นั่นเองค่ะ คล้ายๆกับการขอวีซ่าเข้าประเทศ แต่ระบบลงทะเบียนนี้ สามารถทำได้ทางออนไลน์โดยไม่ต้องไปถึงสถานฑูตค่ะ หลังจากลงทะเบียนผ่านแล้ว ทางที่ปรึกษาศัลยกรรม จะจองคิวผ่าตัด จองตั๋วเครื่องบินวันไปและกลับให้ จองโรงแรม และจองเซอร์วิสต่างๆให้ค่ะ หากลูกค้ามีผู้ติดตาม ที่จะตามไปดูแลลูกค้าในช่วงที่ผ่าตัด ให้แจ้งทางเรามาด้วยนะคะ ทางเราจะได้ทำการจองสิ่งต่างๆ ให้เหมาะสมกับลูกค้าค่ะ

7. รอที่ปรึกษาศัลยกรรมตรวจสอบความถูกต้อง ในเรื่องเอกสารและเรื่องอื่นๆ


            จากข้อที่ 6 หลังจากจองสิ่งต่างๆให้ลูกค้าแล้ว ทางเราจะตรวจสอบความถูกต้องให้อีกครั้งค่ะ เพราะในการเดินทางไปที่เกาหลีใต้ จะต้องจองบริการต่างๆ และจองด้านอื่นๆให้ลูกค้า หากไม่ทราบวันและเวลาที่ชัดเจน ของทั้งผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ จะทำให้ทุกฝ่ายมีปัญหาต่างๆได้ค่ะ ดังนั้นทางเราจะช่วยตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ข้อมูลที่ถูกต้องแบบตรงกันค่ะ

8. รอไฟล์เอกสารต่างๆ ที่ทางที่ปรึกษาศัลยกรรมจะส่งมาให้ เมื่อได้มาแล้ว ให้นำไปปริ้นท์ออกมาทั้งหมด


ระหว่างที่ทางเราตรวจสอบเอกสารให้ ที่ระบุไว้ในข้อที่ 7 ให้ลูกค้ารอเช็คอีเมลล์ หรือเช็คในช่องทางที่ลูกค้า ใช้ในการพูดคุยกับที่ปรึกษาศัลยกรรมนะคะ เพราะทางเราจะส่งเอกสารสำคัญทั้งหมดมาให้ลูกค้า ในช่องทางเหล่านั้นค่ะ เมื่อได้ไฟล์เอกสารแล้ว ให้นำไปปริ้นท์ออกมาทั้งหมดเลยค่ะ เอกสารเหล่านี้จะได้ใช้ในตอนที่ลูกค้าเจอเจ้าหน้าที่ด่านตม.ของประเทศเกาหลีใต้ค่ะ ดังนั้นให้ลูกค้าปริ้นท์ออกมาทั้งหมด แล้วถ่ายเอกสารทั้งหมด หลายๆฉบับไว้ด้วยนะคะ เผื่อว่าบางฉบับอาจจะหายไป จะได้มีสำรองไว้

            ที่สำคัญเผื่อให้ผู้ติดตาม ที่ตามไปดูแลลูกค้าในช่วงผ่าตัดได้เก็บเอาไว้ด้วยนะค่ะ นอกจากนี้เผื่อไว้ให้คนในครอบครัวของลูกค้าเอง ได้เก็บเอาไว้ค่ะหากมีเหตุการณ์ใดๆฉุกเฉินเกิดขึ้นแล้ว ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจมากที่สุด ก็คือครอบครัวของลูกค้าเองค่ะ หากพวกเขามีข้อมูลสำคัญอยู่แล้ว การช่วยเหลือยามมีเรื่องฉุกเฉิน จะง่ายขึ้นมากๆค่ะ

9. ทำตามการแจ้งเตือนจากที่ปรึกษาศัลยกรรม


ช่วง 40-45 วัน ก่อนที่ลูกค้าจะเดินทางจริง ทางที่ปรึกษาศัลยกรรม จะทำการแจ้งเตือนเรื่องที่สำคัญๆให้กับลูกค้าค่ะ ทั้งเรื่องการให้ลูกค้าสอบถามคุณหมอประจำโรค ในเรื่องการงดยาควบคุมโรคค่ะ เพราะตัวยาบางชนิดไม่สามารถทานก่อนผ่าตัดได้ ทางเราจึงจำเป็นต้องแจ้งเตือนลูกค้าล่วงหน้านั่นเองค่ะ ยิ่งถ้าเป็นยาควบคุมโรคด้วยแล้ว ไม่สามารถจะหยุดทานเองได้ ต้องให้คุณหมออนุญาตก่อนเท่านั้นค่ะ ฉะนั้นทางเราจะทำการแจ้งเตือน ให้ลูกค้าเข้าพบคุณหมอประจำโรคก่อน หากคุณหมออนุญาตให้หยุดทายานควบคุมโรคได้ ก็ให้ลูกค้าหยุดทานเลยค่ะ


นอกจากนี้ทางเราจะแจ้งให้ลูกค้า งดทานอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท งดสูบบุหรี่ทุกชนิด งดการออกกำลังกายที่หนักเกินไป และงดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อชีวิต หรือเสี่ยงต่อการป่วยค่ะ สาเหตุที่ต้องงดเรื่องดังกล่าวทั้งหมด ก็เพราะว่าหากฝืนไปทำในทุกเรื่องที่ต้องห้าม จะทำให้แผลผ่าตัดหายช้ากว่าเดิม และถ้าหากป่วย จะทำให้เข้ารับการผ่าตัดไม่ได้ค่ะ เพื่อไม่ให้ลูกค้าลืมแล้วเผลอไปทำสิ่งต้องห้ามทั้งหมด ทางที่ปรึกษาศัลยกรรม จะทำการแจ้งเตือนลูกค้า และลูกค้าต้องปฎิบัติตามคำแนะนำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ทางเราจะแจ้งเตือนให้ลูกค้าลงทะเบียนตรวจ PCR ในไทย ซึ่งการตรวจดังกล่าวนี้ ตรวจเพื่อหาเชื้อโควิดนั่นเองค่ะ หลังตรวจแล้วให้นำใบผลตรวจ มาลงข้อมูลใน Q-CODE เพื่อขอยกเว้นการกักตัวเมื่อเข้าประเทศเกาหลีใต้นั่นเองค่ะ การลงข้อมูลใน Q-CODE สามารถทำได้ล่วงหน้า 1-2 วัน ก่อนที่จะเดินทางจริงค่ะ และจะแจ้งให้ลูกค้าลงทะเบียนขอตรวจโควิดที่สนามบินเกาหลีใต้ มีทั้งแบบ ATK กับ RT-PCR ทางเราจะแจ้งให้ลูกค้าลงทะเบียนดังกล่าวไว้ล่วงหน้าค่ะ

ถ้าไม่ลงทะเบียนตรวจ จะไม่สามารถตรวจโรคได้ และจะไม่สามารถออกไปไหนได้เลยค่ะ ฉะนั้นทางเราจะแจ้งเตือนให้ลูกค้าลงทะเบียนขอตรวจล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายในการตรวจ สามารถชำระได้ที่จุดตรวจโรคที่ลูกค้าลงทะเบียนไว้ ค่าตรวจจะอยู่ที่ 3,000 บาท โดยประมาณค่ะ การลงทะเบียนขอคิวตรวจโรคทางเราจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 2-3 วัน ก่อนที่จะเดินทางจริงค่ะ

10. ตรวจสอบความพร้อมตนเองก่อนเดินทาง เตรียมเอกสารและของใช้ส่วนตัวให้พร้อม


ก่อนเดินทางจริงให้ลูกค้าเช็คความพร้อมของตนเอง ทั้งในเรื่องสุขภาพ เอกสารสำคัญทั้งหมด เงิน รวมไปถึงของใช้ส่วนตัวค่ะ ให้เช็คอย่างละเอียดอีกรอบ เพื่อไม่ให้มีสิ่งใดๆตกหล่นค่ะ จะช่วยให้ลูกค้าไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งในวันที่เดินทางไปและเดินทางกลับ และในช่วงที่อยู่เกาหลีใต้นั่นเองค่ะ เช็คทุกอย่างให้เรียบร้อย จะได้เดินทางแบบไร้กังวลค่ะ

            บทความหัวข้อ ข้อควรทราบก่อนใช้บริการ ที่ปรึกษาศัลยกรรม ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตามอ่านตอนที่ 2 และตอนที่ 3 ได้ที่บทความถัดไปค่ะ ^_^

            ยังมีบทความน่าสนใจอีกหลายๆหัวข้อ คุณผู้อ่านท่านใดสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดตามอ่านบทความถัดไปได้เลยค่ะ ^_^

สนใจปรึกษา สอบถามราคา รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ ติดต่อได้ที่

LINE Officail : https://lin.ee/kkZ6LuQ

ดูข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่

Website : https://oppame.co.th/author/hari9789/

Facebook Fanpage : Rojnara Surgery

Instagram : rojnara_surgery

Tiktok : rojnara_surgery

‘ฮาริ’ รอให้บริการลูกค้าทุกท่านอยู่นะคะ

#โรจนรา_เซอร์เจอรี่ #rojnara_surgery #ที่ปรึกษาศัลยกรรม #ที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลี #ถูกกฎหมาย #มีตัวตนจริง #ให้คำปรึกษาฟรี #ให้คำแนะนำฟรี #ราคาและโปรโมชั่นเท่ากับโรงพยาบาล #ราคาและโปรโมชั่นเท่ากับคลินิก #ไม่บวกราคาเพิ่ม #ส่งเคสลูกค้าได้40กว่าแห่ง #บริการทุกขั้นตอน #บริการครบวงจร #oppame #oppamethailand #oppame_ใส่ใจทุกความรู้สึก #oppameglobal #오빠미광고 #오빠미전문컨설턴트

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/kkZ6LuQ

  2. เยี่ยมชมโปรไฟล์ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://www.facebook.com/profile.php?id=100082212911512

ความคิดเห็น


bottom of page