10 อันดับยอดนิยม เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมสำหรับผู้ชาย

1. #เสริมจมูก : สำหรับการเสริมจมูกในเวอร์ชั่นผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจในขั้นตอนการผ่าตัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากจมูกผู้ชายส่วนมากจะมีฮัมพ์จมูกที่ค่อนข้างสูง และใหญ่ ดังนั้นศัลยแพทย์ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างมากในทุกขั้นตอน การผ่าตัดขึ้นอยู่กับแต่ละเทคนิคของศัลยแพทย์แต่ละบุคคลว่าจะทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคไหน ถ้าโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว การเสริมโดยใช้ซิลิโคนก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผ่าตัดค่อนข้างง่าย ส่วนอีกกรณีที่ต้องประณีตให้มากที่สุดเลยก็คือ การผ่าตัดแบบโอเพ่นเพื่อปรับโครงสร้างภายในจมูกให้สมบูรณ์กว่าเดิมมากยิ่งขึ้น ระยะเวลาในการใส่เฝือก และพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 7-14 วัน เมื่อจมูกเริ่มเข้าที่ประมาณ 1-2 เดือน จะสามารถค่อยๆ กลับมาออกกำลังกายได้โดยเริ่มจากเบา ๆ ไม่ใช้แรงสั่นสะเทือนหนักเพื่อระวังไม่ให้จมูกเคลื่อนที่ได้

2. #ผ่าตัดขากรรไกร : การผ่าตัดขากรรไกรช่วยส่งเสริมให้โครงสร้างของใบหน้านั้นออกมาชัดเจน และดูโดดเด่นมากขึ้น โดยขั้นตอนการผ่าตัดขากรรไกร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับช่องปากโดยตรงจะทำการประเมินเกี่ยวกับขากรรไกรของเราก่อนเพื่อให้โครงหน้านั้นออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จะนิยมมากในกลุ่มของผู้ชาย สาเหตุมาจากรูปหน้าของผู้ชายนั้นมีลักษณะกรอบหน้า และกรามชัดกว่าผู้หญิง จึงทำให้ผู้ชายบางคนไม่มีความมั่นใจ (ในบางเคสคาง และปากจะดูยื่นออกมาข้างหน้าเยอะกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนกับอวัยวะอื่น)

3. #ผ่าตัดหน้าท้อง #TummyTuck : คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดว่าเป็นการดูดไขมัน แต่การผ่าตัดหน้าท้อง Tummy Tuck เป็นการผ่าตัดหน้าท้องโดยตรง ช่วยให้ปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีน้ำหนักเยอะมาก่อน และพอน้ำหนักลดลงผิวหนังหนังตรงส่วนหน้าท้องก็เลยหย่อนคล้อยตามลงมา แต่ไม่กระชับ ดังนั้นการผ่าตัดหนังหน้าท้องจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดของคนที่อยากแก้ไขในจุดบกพร่องนี้ได้อย่างตรงจุด

4. #เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย : โดยพื้นฐานแล้วขนาดวัยวะเพศของผู้ชายนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนที่มีขนาดค่อนข้างเล็กกว่ามาตรฐาน และไม่ค่อยมีความมั่นใจ การฉีดเพิ่มขนาดด้วย ฟิลเลอร์ หรือ ฉีดไขมัน นั้นยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างปลอดภัยในวงการแพทย์ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้นั้นจะสามารถสลายไปได้เองโดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล ส่วนในกรณีที่ใช้ไขมันนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้ไขมันที่มาจากร่างกายของเราเอง ผลลัพธ์ที่ได้คือปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อตัวของผู้ที่เข้ารับการแก้ไขปัญหานี้

5. #ทำตาสองชั้น : การทำตาสองชั้นในฉบับของผู้ชายนั้น สิ่งที่แตกต่างออกไปจากผู้หญิงเลย คือ จะไม่นำไขมันส่วนเกินบนเปลือกตาออกไปเยอะเท่าผู้หญิง เนื่องจากใบหน้าของผู้ชายนั้นยังต้องมีความธรรมชาติไว้อยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรกำจัดไขมัน และกำจัดผิวหนังบริเวณของชั้นตาออกมากเกินไป ซึ่งอีกหนึ่งเทคนิคที่อยากแนะนำเลยก็คือ ตาสองชั้นเทคนิคเกาหลี ข้อดีของเทคนิคนี้ คือ ได้ชั้นตาในระยะที่เหมาะสมรับกับใบหน้า ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ได้ตาสองชั้นที่มีความสดใสด้วยเทคนิคจากเกาหลีที่มีความเป็นธรรมชาติใช้เวลาพักฟื้นเร็ว หลังทำสามารถใช้ชีวิตตามกิจวัตรประจำวันตามปกติได้เลย เนื่องจากมีอาการบวมช้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีรอยแผลเป็น

6. #ลดขนาดหน้าอก : สำหรับผู้ชายบางคนที่มีขนาดหน้าอกที่ขยายใหญ่มากเกินไป สาเหตุอาจมาจากฮอร์โมนในร่างกายพัฒนามากเกินไป หรือในอีกกรณีคือคนที่เคยน้ำหนักเยอะมาก่อน และพอลดน้ำหนักลงหน้าอกกลับไม่ลงตามมาด้วย ทำให้ต้องลดขนาดหน้าอกด้วยการ ดูดไขมัน ตรงส่วนนั้นออกไป เพื่อให้ร่างกายดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

7. #ศัลยกรรมดึงหน้า : ปัจจุบันผู้ชายก็เริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการ ดึงหน้า กันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดในเรื่องของการหย่อนคล้อยบริเวณหนังตาตก คิ้วตก ใบหน้าและลำคอไม่กระชับ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของเรานั้นดูมีอายุเพิ่มขึ้นจากเดิม และด้วยเทคโนโลยีของวงการศัลยแพทย์ในยุคนี้สามารถช่วยให้การผ่าตัดดึงหน้านั้นดูเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก ผลลัพธ์หลังทำไปแล้วใบหน้าจะดูอายุลดลงไปถึง 5–20 ปีเลยทีเดียว

8. #ฉีดฟิลเลอร์ และ #โบท็อกซ์ : ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ในชั้นผิวหนัง และใต้ผิวหนังที่ตัวของเราเองนั้นรู้สึกว่ามันขาดหายไป ในกรณีการฉีดฟิลเลอร์ของผู้ชายนั้นจะเน้นเป็นการแก้ไขในเรื่องของปัญหาริ้วรอยร่องลึกระหว่างใบหน้าไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก รอบดวงตา หรือแม้กระทั่งริมฝีปาก และปัญหาที่เกิดจากรูขุมขนที่ลึกลงไปทำให้หน้าไม่เรียบเนียน โบท็อกซ์ ช่วยลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเหมาะสมมากขึ้น โดยปกติแล้วการฉีดโบท็อกซ์จะได้ผลลัพธ์ที่ดีไปประมาณ 3-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับว่าเราฉีดเพื่อแก้ไขตรงส่วนใด และบริเวณใด) ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ ไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ หลังฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย (แต่จำเป็นต้องงดแอลกอฮอร์ประมาณ 1 อาทิตย์)

9. #ดูดไขมัน : จะเกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ชายคนที่มีส่วนของหน้าท้องใหญ่ สาเหตุมาจากการ อ้วนลงพุง ไม่ว่าจะออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารหนักแค่ไหนก็ยังไม่เห็นผล การดูดไขมันจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ช่วยสามารถนำไขมันบริเวณหน้าท้องออกมาได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงอันตราย ส่วนใครที่กำลังกังวลว่า ผิวหนังส่วนที่ได้ดูดไขมันออกไปจะเป็นคลื่น ไม่กระชับ ขอบอกว่าหายห่วงไปได้เลย เพราะนวัตกรรมของเครื่องมือแพทย์นั้นได้พัฒนาในส่วนของการ ดูดไขมัน และกระชับผิวไปในตัวด้วยเครื่องดูดไขมันที่ชื่อว่า Body Tite และ J Plasma ข้อดีของเครื่องดูดไขมัน 2 ชนิดนี้คือ ความร้อนจากคลื่นวิทยุ ช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และกระชับขึ้น ดูดไขมันพร้อมกับการกระชับผิวไปพร้อมกันในครั้งเดียว ขจัดเซลลูไลท์ ผิวที่ไม่เรียบเนียน หรือผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันเป็นคลื่น และจะช่วยทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน และกระชับขึ้น ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน บวมช้ำ และอาการเจ็บน้อยลง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และร่างกาย ทั้งที้ควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยหลังจากที่รอแผลหาย และร่างกายฟื้นตัว เพื่อผลลพธ์ที่ดีที่สุดต่อตัวของผู้ที่เข้ารับการแก้ไขปัญหานี้เอง

10. #ฉีดไขมัน : ไขมันที่นำมาฉีดนั้นเป็นไขมันที่มาจากร่างกายของตัวเราเอง โดยใบหน้าของผู้ชายที่นิยมฉีดกัน คือ บริเวณแก้ม และริมฝีปาก เพื่อช่วยปัญหาในส่วนของรูปหน้าเดิมที่มีแก้มตอบ และริมฝีปากบางจนเกินไป ฉีดไขมัน จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อตัวของผู้ที่มีปัญหาในลักษณะนี้ ดังนั้นการฉีดใครมันจึงควรหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อที่แยกเซลล์ไขมัน และสเต็มเซลล์ให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพมากที่สุด ก่อนที่จะเติมไขมันบริเวณบนใบหน้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก #APEX

1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/zLMXgNI

2. เยี่ยมชมโปรไฟล์ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://oppame.co.th/cinderella-surgery/consultant/--cinderella-surgery-by-creamzpatcha/